กัญชา sativa สายพันธุ์กัญชายอดนิยมในไทย
กัญชา Sativa

กัญชา sativa สายพันธุ์กัญชายอดนิยมในไทย

     กัญชา sativa (Cannabis sativa) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์ Cannabidaceae มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียกลางและใต้ เป็นพืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกเพื่อใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน เช่น เป็นเส้นใยสำหรับทำเชือก ผ้า และกระดาษ เป็นอาหาร และเป็นยา สายพันธุ์ sativa มีลักษณะลำต้นสูงโปร่ง ใบยาว เรียว ดอกมีขนาดเล็กและมีสารเคมีแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) อยู่หลายชนิด สารเคมีเหล่านี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย เช่น ฤทธิ์กระตุ้นประสาท ฤทธิ์ระงับปวด ฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ และฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับ

การใช้กัญชาเพื่อนันทนาการและการแพทย์

กัญชา Sativa

     กัญชาสายพันธุ์ sativa เป็นสายพันธุ์ของกัญชาที่มีสาร THC (tetrahydrocannabinol) สูง ซึ่งเป็นสารเคมีแคนนาบินอยด์ที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเอนกาย ผ่อนคลาย และมีความสุข สายพันธุ์กัญชา sativa จึงมักถูกนำไปใช้เพื่อการนันทนาการ นอกจากนี้กัญชา sativa ยังมีคุณสมบัติทางการแพทย์มากมาย เช่น สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด เคลื่อนไหวผิดปกติ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น กัญชา sativa ยังถูกใช้ในการรักษาโรคบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน และโรคมะเร็ง

ประโยชน์ของ กัญชา sativa

     กัญชาสายพันธุ์ sativa มีประโยชน์หลากหลายด้าน ดังนี้

  • ใช้เป็นเส้นใย เส้นใยจากกัญชา sativa มีความแข็งแรง ทนทาน และทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี จึงสามารถนำไปใช้ผลิตเชือก ผ้า กระดาษ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้หลากหลาย
  • ใช้เป็นอาหาร กัญชา sativa สามารถนำไปรับประทานได้ในหลายรูปแบบ เช่น เมล็ด ใบ ดอก และน้ำมัน เมล็ดกัญชา sativa มีโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ส่วนใบและดอกกัญชา sativa สามารถนำไปทำเป็นชา อาหารอบ หรือใส่ในอาหารอื่นๆ ได้ น้ำมันกัญชา สามารถนำไปใช้ปรุงอาหารหรือใช้เป็นอาหารเสริมได้
  • ใช้เป็นยา sativa มีคุณสมบัติทางการแพทย์มากมาย เช่น สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด เคลื่อนไหวผิดปกติ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น sativa ยังถูกใช้ในการรักษาโรคบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน และโรคมะเร็ง

วิธีปลูก กัญชา sativa คำแนะนำสำหรับการปลูกกัญชาสายพันธุ์ sativa

     สายพันธุ์กัญชา sativa สามารถปลูกได้ในหลากหลายสภาพอากาศ แต่จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพอากาศร้อนชื้น sativa ต้องการแสงแดดเต็มวันและดินร่วนระบายน้ำได้ดีการ ปลูกกัญชา สามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ หากเพาะเมล็ดควรใช้เมล็ดที่สดใหม่และมีคุณภาพดี เพาะเมล็ดในกระถางหรือถาดเพาะกล้า จากนั้นย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกเมื่อต้นกล้าสูงประมาณ 6 นิ้ว การปักชำเป็นใช้อาการจากต้นกัญชา sativa ที่มีอายุอย่างน้อย 2 เดือน ตัดกิ่งที่มีความยาวประมาณ 4-6 นิ้ว จากนั้นนำไปปักชำในวัสดุเพาะชำ เช่น ขุยมะพร้าวหรือทรายรากไม้หลิ่ว รักษาวัสดุเพาะชำให้ชื้นอยู่เสมอ ต้นชำจะออกรากภายในเวลา 1-2 สัปดาห์เมื่อต้นกัญชา sativa สูงประมาณ 2 ฟุต ให้ทำการใส่ปุ๋ย เพื่อช่วยให้ต้นกัญชาเจริญเติบโตได้ดี ควรใส่ ปุ๋ยกัญชา ทุกๆ 2 สัปดาห์ ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือสูตรที่มีปริมาณไนโตรเจนสูงกว่า เช่น 20-10-10

กัญชา Sativa

กัญชาสายพันธุ์ Sativa ที่นิยมปลูกในประเทศไทย

     sativa มีสายพันธุ์ย่อยมากมาย แต่ละสายพันธุ์มีปริมาณสารเคมีแคนนาบินอยด์ที่แตกต่างกันไป สายพันธุ์กัญชา sativa ที่นิยมปลูกในประเทศไทย ได้แก่

  • กรีนแคร็ก (Green Crack) สายพันธุ์กัญชา sativa ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีลักษณะลำต้นสูง ใบเรียวยาว ดอกมีสีเขียวอมเหลือง สายพันธุ์นี้ให้ผล THC สูงถึง 25%
  • ซาวเออร์ ดีเซล (Sour Diesel) สายพันธุ์กัญชา sativa ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันก๊าด มีลักษณะลำต้นสูง ใบเรียวยาว ดอกมีสีเขียวอมเหลือง สายพันธุ์นี้ให้ผล THC สูงถึง 20%
  • แจ็ค แฮร์เรอ (Jack Herer) สายพันธุ์กัญชา sativa ที่มีกลิ่นหอมของไม้สน มีลักษณะลำต้นสูง ใบเรียวยาว ดอกมีสีเขียวอมเหลือง สายพันธุ์นี้ให้ผล THC สูงถึง 22%
  • เดอร์แบน พอยซัน (Durban Poison) สายพันธุ์กัญชา sativa จากประเทศแอฟริกาใต้ มีลักษณะลำต้นสูง ใบเรียวยาว ดอกมีสีแดงอมชมพู สายพันธุ์นี้ให้ผล THC สูงถึง 23%
  • สตอร์เบอรี่ คอฟ (Strawberry Cough) สายพันธุ์กัญชา sativa ที่มีกลิ่นหอมของสตรอว์เบอร์รี่ มีลักษณะลำต้นสูง ใบเรียวยาว ดอกมีสีแดงอมชมพู สายพันธุ์นี้ให้ผล THC สูงถึง 20%

ข้อควรระวังในการบริโภคกัญชา sativa

     การบริโภคกัญชา sativa อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางประการ เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล และประสาทหลอน ผู้ที่มีอาการแพ้กัญชา sativa ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค นอกจากนี้ การใช้กัญชา sativa ในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต เช่น อาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และโรคจิตเภทกัญชา sativa เป็นพืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทยมาช้านาน เดิมที sativa นิยมปลูกเพื่อใช้เส้นใยสำหรับทำเชือก ผ้า และกระดาษ ต่อมาได้มีการนำ sativa มาใช้เพื่อการนันทนาการและทางการแพทย์ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการปลูก sativa เชิงพาณิชย์เพื่อใช้ในทางการแพทย์และเพื่อจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การปลูก sativa ยังคงมีการควบคุมอยู่ ผู้ที่ต้องการปลูก sativa ต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

กัญชา Sativa

บทสรุปและอนาคตของ กัญชา sativa

     กัญชาเป็นพืชที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านเศรษฐกิจและทางการแพทย์ คาดว่าในอนาคต sativa จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสังคมไทย ดังนี้

  • ด้านเศรษฐกิจ sativa สามารถนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยารักษาโรค ส่งผลให้อุตสาหกรรมกัญชา sativa มีมูลค่าสูง
  • ด้านทางการแพทย์ sativa มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด เคลื่อนไหวผิดปกติ เบื่ออาหาร และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ส่งผลให้กัญชา sativa สามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   อย่างไรก็ตาม การใช้กัญชา sativa ยังคงมีความเสี่ยงบางประการ เช่น ผลข้างเคียงและผลเสียต่อสุขภาพจิต ดังนั้น ผู้ที่สนใจใช้กัญชา sativa ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดกัญชา sativa เป็นพืชที่มีคุณค่าทั้งด้านเศรษฐกิจและทางการแพทย์ ประเทศไทยมีกฎหมายที่อนุญาตให้ใช้กัญชา sativa ทางการแพทย์และเพื่อการศึกษาวิจัย ผู้ที่สนใจปลูกหรือบริโภคกัญชา sativa ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุด